ความแตกต่างระหว่างการติดยาเสพติด และการเสพยาเสพติด
การเสพยา หมายถึง การใช้ยา ไม่ว่าจะเป็นยาที่ถูกกฎหมาย หรือผิดกฎหมายก็ตาม ส่วนการติดยา หมายถึง การใช้ยาเสพติดที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างรุนแรง และทำให้ผู้เสพมีอาการติดยา หรือต้องการเสพยาตลอดเวลา
การเสพยาเสพติดเป็นอย่างไร?
การเสพยา หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้หมายความว่า ผู้เสพจะมีอาการเสพติดเสมอไป เช่น ผู้ชายคนหนึ่งสูบกัญชา 3-4 ครั้ง นั่นไม่ได้หมายความว่า เขามีอาการเสพติดกัญชา
แต่หากในอนาคต เขายังคงสูบกัญชาอย่างต่อเนื่องก็มีโอกาสที่จะทำให้เขากลายเป็นคนติดกัญชาได้
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วคนเราสามารถเสพติดสารใดๆ ก็ได้ ไม่ใช่เพียงแค่ยาเสพติดที่มักได้ยินติดหูกัน แต่คนส่วนมากจะเข้าใจผิดว่า อาการเสพติดมักเกิดกับการเสพยาที่ผิดกฎหมาย หรือการดื่มสุรา และเครื่องแอลกอฮอล์เท่านั้น
ยาต่างๆ บุหรี่ หรือกาว ก็สามารถทำให้เกิดพฤติกรรมการเสพติดได้เช่นกัน ซึ่งสารบางประเภทนั้น สามารถทำให้ผู้เสพเกิดอาการติดยาอย่างรุนแรงได้ เช่น โคเคน เฮโรอีน แม้จะเป็นการลอง หรือเสพเพียงครั้งเดียวก็ตาม
อาการในระหว่างติดยาเสพติด
อาการติดยา คือ การที่ผู้เสพยาไม่สามารถควบคุม หรือบังคับตนเองให้ห่างจากอาการอยากยาได้ เช่น ผู้ที่เสพติดโคเคน คนกลุ่มนี้จะไม่สามารถหยุดการใช้ยาได้และจะต้องใช้ยามากขึ้นเรื่อยๆ
ตรวจสารเสพติดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 285 บาท ลดสูงสุด 5%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากนี้การติดยายังส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางด้านร่างกาย และสภาพทางจิตได้ดังนี้
- อาการดื้อยา เป็นอาการที่ทำให้ผู้ติดยาต้องการยาในปริมาณที่มากขึ้น และมีจำนวนครั้งในการเสพถี่ขึ้นด้วย
- อาการลงแดง เป็นอาการทางร่างกายที่แสดงออกมาเมื่อผู้ติดยาเสพติดขาดยา หรือต้องการเลิก และหยุดใช้ยา เนื่องจากร่างกายได้เสพติดการใช้สารดังกล่าวไปแล้ว อาการที่แสดงออกมาจะได้แก่ ท้องร่วงอย่างรุนแรง ตัวสั่น รู้สึกหวาดกลัว หรือเห็นภาพหลอน
- เกิดความผิดปกติทางจิตและอารมณ์ ฤทธิ์ของยาเสพติดหลายชนิดก่อให้เกิดความผิดปกติภายในสมองและระบบประสาท ส่งผลให้ผู้ติดยาเห็นภาพหลอน รู้สึกว่า ตนมีพละกำลังมากมายมหาศาล ตื่นตัวตลอดเวลา และอาจกลายเป็นผู้มีความผิดปกติทางจิตได้
- ระบบการทำงานภายในร่างกายเกิดความผิดปกติ ยาเสพติดจะเข้าไปก่อกวน และทำลายระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายหลายด้าน เช่น ทำให้ความดันโลหิตสูง มีไข้ เลือดออกในสมอง ตาลาย ง่วงซึม ท้องผูก การมองเห็น และการได้ยินผิดเพี้ยนไป
- ก่ออาชญากรรม การซื้อยาเสพติดมักต้องใช้เงินจำนวนมาก ผู้ที่ติดยาเสพติดส่วนมากเมื่อไม่มีเงินพอที่จะซื้อยามาเสพได้จึงมักก่ออาชญากรรมเพื่อให้ได้เงินมาซื้อยา บางครั้งอาจรุนแรงถึงการฆ่าชิงทรัพย์ได้
เลิกยาเสพติด ดังนี้
1.เตรียมใจให้พร้อม โดยเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
2.เมื่อมีปัญหา มีความเครียดควรทบทวนหาสาเหตุ คุยกับเพื่อน หรือบุคคลที่เราไว้วางใจ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขร่วมกัน
3.สร้างบรรยากาศ ปรับปรุงสถานที่ให้เหมาะสม ทั้งบ้าน ที่ทำงานให้บรรยากาศดีขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในบ้าน
4.ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์
5.นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
6.เมื่อมีเวลาว่าง ควรควรหางานอดิเรกหรือทำกิจกรรมสร้างสรรค์ หรือพักผ่อนหย่อนใจ เช่น ปลูกต้นไม้ ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูทีวี ท่องเที่ยว
7.งดอบายมุข คือ งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา ไม่เล่นการพนัน และไม่สำส่อนทางเพศ
8.เข้าใจชีวิต คือ ยอมรับสภาพความเป็นจริงของชีวิต และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเท่าที่ทำได้เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น ไม่ท้อถอย
9.ภูมิใจในตัวเอง โดยชื่นชมและสร้างความเชื่อมั่น สร้างกำลังใจให้ตนเอง มองตนเองว่ามีคุณค่า มีความสามารถ มีศักดิ์ศรี และภาคภูมิใจในตนเอง และ
10. คิดบวก หรือควรมองโลกในแง่ดี คิดทางบวกเป็นความคิดที่นำความสุขมาสู่ตน